นักพัฒนาอสังหาริมทริพย์ไทยเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่จัดทำอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก เนื่องจากขณะนี้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและอัตราดอกเบี้ยกำลังพุ่งสูงขึ้น
จำนวนยูนิตที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากต้นทุนที่ดิน การก่อสร้าง และค่าจ้างที่พุ่งสูงขึ้น 30-50% นอกจากนี้ แนวโน้มการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 600 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคการเมืองที่ได้ขึ้นเป็นรัฐบาล ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อต้นทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก ตามที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพัฒนาที่อยู่อาศัย จากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย
นายแสนผิน สุขี ได้กล่าวไว้
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ REIC กล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยที่มีความสูงไม่เกิน 9 ชั้น ที่พร้อมขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มขึ้นจาก 128.3 เป็น 129.7 ในไตรมาสที่ 2 การเพิ่มขึ้นเหล่านี้เกิดขึ้นเฉพาะกับที่อยู่อาศัยที่มีความสูงไม่เกิน 9 ชั้นในโครงการที่เปิดตัวในปี 2564-2565
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยที่มีความสูงไม่เกิน 9 ชั้นใหม่ในกรุงเทพฯ มีอัตราเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในพื้นที่นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ สำหรับบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีสำหรับทาวน์เฮาส์
แต่อัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นเพียง 5% ต่อปี ซึ่งมีผลทำให้กำลังในการซื้อบ้านหลังใหม่ของคนไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นายแสนผิน สุขี กล่าวว่า วิธีที่จะลดปัญหาการผ่อนบ้านสำหรับผู้ซื้อครั้งแรกนั้น จำเป็นจะต้องให้รัฐบาลใหม่ออกอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นอกจากนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรช่วยริเริ่มโครงการสร้างความยืดหยุ่นให้ธนาคารพาณิชย์ในการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย อีกทางเลือกหนึ่งทีสามารถทำได้คือการลดภาษี